การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติอินเดียในวันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 19:30 น. ณ สนามธรรมศาสตร์ สเตเดียม ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่สอง
ความพร้อมทีมชาติไทย
ทีมชาติไทยมีความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านและฟอร์มการเล่นที่ดีในช่วงหลัง โดยเฉพาะการชนะ 2 นัดล่าสุดโดยไม่เสียประตู แต่จุดอ่อนของทีมชาติไทยเรา คือ ทั้งซ้ายและขวา ยังเติมเกมส์รุกได้ไม่ดีลงมาไม่ทันที่จริง ทั้งการยืนตำแหน่ง การซัพพอร์ตเกมรุก และจังหวะจ่ายบอลที่ยังไม่แม่นพอ ยิ่งในเกมระดับชาติที่สปีดเกมสูง การเสียบอลง่ายจากแบ็คอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมได้เลย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แม้จะไม่ได้ฟอร์มร้อนแรงเหมือนช่วงพีค แต่เรื่องประสบการณ์ในเกมใหญ่ รวมถึงความเข้าใจเกมและการตัดสินใจ ยังถือว่า “ใช้ได้” โดยเฉพาะเกมที่ต้องควบคุมฝั่งขวาให้มั่นคง

จุดเด่นคือ การเติมเกมบุกแม่น และ ความแข็งแกร่ง ซึ่งอาจดีกว่าตัวเลือกแบ็คที่ลงวันนี้
จุดอ่อนแบ็คซ้าย-ขวา
จ่ายบอลไม่แม่น: หลายจังหวะเสียบอลกลางทาง ทำให้ทีมเสียจังหวะบุก และโดนโต้กลับ
เติมเกมรุกไม่สุด: หลุดขึ้นสูงแต่ไม่มีคอนเนคกับปีก หรือเปิดบอลไม่เข้าเป้า
ดรอปเกมรับ: การยืนตำแหน่งเมื่อโดนสวนกลับยังไม่ดี กลับมาช่วยแนวรับไม่ทันในหลายจังหวะ
ส่วนทีมชาติอินเดียมีฟอร์มที่เหนียวแน่น แต่หนักไปทางผลเสมอ

ในภาพรวม ทีมชาติอินเดียมีสถิติชนะ 1 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้ 1 นัดจาก 5 เกมหลังสุด โดยสามารถทำประตูได้เฉลี่ย 0.7 ประตูต่อเกม และเสียประตูเฉลี่ย 1 ประตูต่อเกม
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการแต่งตั้ง มาโนโล่ มาร์เกวซ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเมื่อกลางปี 2024 ซึ่งเขาเคยมีประสบการณ์คุมทีมในอินเดียมาก่อน และนำทีมคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2021-22
โดยรวมแล้ว ทีมชาติอินเดียมีฟอร์มที่ค่อนข้างเหนียวแน่นในเกมรับ แต่ยังขาดความเฉียบคมในเกมรุก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันกับทีมชาติไทยในวันนี้.
ทั้งสองทีมเคยพบกัน 5 นัดหลังสุด ไทยชนะ 2 นัด อินเดียชนะ 2 นัด และเสมอ 1 นัด
เริ่มแข่งขันเวลา 19.30 น.
ชมถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32